Alibaba มาอัพเดทเทรนด์หูฟังไร้สาย ที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ซึ่งตอนนี้กำลังกลายเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับคนทุกวัย
ก่อนหน้านี้เราจะเห็นว่าหูฟังแบบไร้สาย มีทั้งแบบครอบหูและแบบเสียบหู แต่ที่กำลังจะกล่าวถึงเป็นหูฟังแบบเสียบหูหรือรู้จักกันในชื่อของ ‘in ear’นั้นเอง
ด้วยโทรศัพท์รุ่นใหม่ ที่เริ่มไม่มีรูแจ็คสำหรับเสียบหูฟังแบบสาย จึงทำให้คนเริ่มหันมาสนใจหูฟังแบบไร้สายกันมากขึ้น ซึ่งในขณะเดียวกันหูฟังแบบ In-ear (หรือหูฟังแบบในหู) นั้น มีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือทั้งแบบเชื่อมสองข้างเข้าด้วยกัน เรียกกันให้เข้าใจง่ายๆ คือแบบดั้งเดิม ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไป และอีกแบบคือหูฟัง True Wireless ซึ่งเป็นแบบที่ไม่มีสายทั้ง 2 ข้าง จะเห็นได้ว่าช่วงนี้เริ่มมีหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ให้เลือกใช้งานกันมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญเลยคือทั้งในเว็บไซต์ Taobao และ Tmall เป็นแหล่งให้คุณได้เลือกหูฟัง ทั้งแบบดั้งเดิมและแบบ True Wireless เพื่อตอบสนองความต้องการและเลือกใช้งานได้ตามความชอบของตัวคุณ โดยหูฟังแบบไร้สายทั้ง 2 แบบนั้น มีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป Alibabaeasy รวบรวมมาให้ดูกันว่ามีอะไรกันบ้าง
- ความสบายเวลาสวมใส่
เป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ที่ทุกคนต่างมองหาอยู่เสมอ สำหรับการสวมใส่หูฟัง โดยหูฟังแบบ True Wireless มีน้ำหนักเบากว่าหูฟังแบบดั้งเดิมเล็กน้อย รวมทั้งไม่มีสายพาดบริเวณหลังคอ บางคนอาจรู้สึกรำคาญไม่ค่อยสบายเวลามีสายนั้นแกว่งไปแกว่งมา สำหรับการสวมใส่หูฟังแบบ True Wireless จะมีขนาดใหญ่มากกว่า ตัว Body ของหูฟังจะเบียดบริเวณช่องหู ช่วยเพิ่มความกระชับในการสวมใส่ บางแบรนด์มี wingtip หรือปีกสำหรับเกี่ยวกับช่องหูเพิ่มเข้ามาด้วย
ในขณะที่หูฟังแบบดั้งเดิม ยังมีบางรุ่นที่มีดีไซน์แบบเสียบเข้าไปในช่องหู ส่วนของสายมักติดตัวหนีบเสื้อ เพื่อยึดไม่ให้สายแกว่งไปแกว่งมานั้นเอง หรือบางรุ่นออกแบบมาเพื่อให้สายนั้นพาดบริเวณต้นคอ เมื่อถอดออกก็สามารถแขวนเอาไว้ที่คอได้เลย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนว่าสะดวกหรือชอบหูฟังแบบไหน
- ระยะเวลาในการใช้งาน
เพราะการใช้งานในการเสียบหูฟังของแต่ละคนนั้น ย่อมแตกต่างกันออกไป ซึ่งข้อจำกัดของหูฟังแบบไร้สาย คือแบตเตอรี โดยหูฟัง True Wireless มีขนาดที่เล็ก แบตเตอรีจึงถูกจำกัดตามขนาดไปด้วย การใช้งานของหูฟังประเภทนี้จึงใช้ได้เต็มที่เพียง 4-5 ชั่วโมงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว หูฟัง True Wireless จึงมาพร้อมกับเคสที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ภายในตัว และสามารถชาร์จเพิ่มเข้าไปได้อีก 3-4 รอบด้วยกัน ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นถึง 15-20 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้น ก็จำเป็นต้องถอดออกมาชาร์จเป็นระยะๆ
ในส่วนของหูฟังไร้สายแบบดั้งเดิม มักจะมีแบตเตอรีเอาไว้บริเวณปุ่มกดควบคุมหรือที่ตัวของหูฟังเอง จึงปริมาณของแบตเตอรีที่มากกว่า สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 8-12 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นที่ใช้งาน) และใช้งานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่จำเป็นต้องนำไปชาร์จระหว่างใช้งาน ซึ่งนับเป็นข้อดีสำหรับหูฟังแบบดั้งเดิม
- ความเสถียรของการเชื่อมต่อสัญญาณ
เรื่องสัญญาณการเชื่อมต่อถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใช้งานหลายๆ คน เพราะหากการเชื่อมต่อแล้ว สัญญาณเกิดความไม่เสถียร แน่นอนว่าอาจทำให้เกิดเสียงขาดๆ หายๆ ได้ในบางช่วงบางตอน ที่คุณกำลังสนทนาหรือเปิดใช้งานหูฟังอยู่ ซึ่งมันคงสร้างความรำคาญให้กับคุณไม่ใช่น้อย โดยความเสถียรของหูฟังทั้ง 2 แบบนั้น มีข้อแตกต่างกัน คือ
หูฟังแบบ True Wireless มีระบบการรับสัญญาณจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ ทั้งนี้ยังเชื่อมสัญญาณของหูฟังสองข้างเข้าด้วยกัน ซึ่งตรงจุดนี้นี่เอง ที่อาจทำให้เกิดเสียงขาดเสียงหายบ้างเป็นบางครั้ง หรือมักเจอในกรณีที่กำลังเปิดใช้งานหูฟังอยู่ ถึงอย่างนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ จนทำให้อารมณ์เสียเวลาใช้งานอย่างแน่นอน
ส่วนหูฟังไร้สายแบบดั้งเดิม จะรับสัญญาณจากเครื่องเล่น ก่อนส่งสัญญาณไปหูฟังอีกข้างด้วยสายของหูฟังนั่นเอง ทำให้ความเสถียรของสัญญาณไม่ค่อยถูกรบกวน จึงไม่เจอกับปัญหาเสียงขาดหายจากการเชื่อมต่อ ทั้งนี้อาจยังเจอปัญหาสัญญาณที่ส่งมาจากเครื่องเล่นไม่ดีพอ จนทำให้เกิดอาการขาดหายได้อยู่
- การจัดเก็บ
อย่างที่ทราบกันดีว่าหูฟังแบบ True Wireless มักมาพร้อมกับเคส ที่ออกแบบสำหรับจัดเก็บและชาร์จแบตเตอรีเอาไว้ภายในตัว เมื่อใช้งานเสร็จเรียบร้อยสามารถเก็บเข้ากับตัวเคสได้เลย ซึ่งก็ถือเป็นการชาร์จแบตเตอรีภายในตัวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อป้องกันการทำหล่นหรือลืมทิ้งไว้ เราขอแนะนำให้เก็บหูฟังแบบ True Wireless ไว้ในเคสทุกครั้ง เนื่องจากหูฟังประเภทนี้ มีขนาดเล็ก ทำให้ง่ายต่อการทำหาย
สำหรับหูฟังไร้สายแบบดั้งเดิม การจัดเก็บจะแตกต่างจากหูฟังแบบ True Wireless อย่างเห็นได้ชัด ส่วนใหญ่การจัดเก็บมักจะเก็บกันในซองหรือเคสเล็กๆ ที่ให้มาภายในกล่อง จึงสามารถม้วนเก็บเหมือนหูฟังมีสายแบบทั่วไปได้เลย
- ราคา
หูฟังแบบ True Wireless มีราคาค่อนข้างสูง ด้วยเทคโนโลยีที่มาใหม่ ในปัจจุบันผู้ผลิตหรือแบรนด์หลายรายเริ่มมีการนำเสนอหูฟังแบบ True Wireless ในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึง โดยมีราคาเริ่มตั้งแต่ 2,000 กลาง ทำให้สามารถหาซื้อกันได้แล้ว และแน่นอนว่าราคานั้นช่างใกล้เคียงกับหูฟังไร้สายแบบดั้งเดิมเสียเหลือเกิน จึงขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบหรือสะดวกใช้แบบไหน
- ด้านความปลอดภัย
เรื่องความปลอดภัยคือเรื่องที่ไม่อาจมองข้ามได้ สำหรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน Bluetooth ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดผลกระทบจากคลื่นความถี่ของโทรศัพท์ให้ต่ำลง เมื่อใช้งานผ่านหูฟังไร้สาย หรือในกรณีที่กำลังขับรถ แล้วมีสายที่ต้องสนทนาในระหว่างการขับขี่ จะช่วยลดความกังวลจากการใช้งานโทรศัพท์ ทำให้มีสมาธิในการขับขี่อยู่ตลอดเวลา
สำหรับเรื่องการเก็บรักษาของหูฟังแบบไร้สาย ต้องเข้าใจก่อนว่าหูฟังไร้สายหรือหูฟัง Bluetooth ต้องมีการเชื่อมต่อและหาสัญญาณอย่างแน่นอน กรณีการเชื่อมต่อและหาหาสัญญาณไม่เจอ จึงอาจมีการรีเซ็ตสัญญาณบ้างในบางครั้ง เรื่องสำคัญไม่แพ้กันเลยคือเรื่องของแบตเตอรี ผู้ใช้งานจำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรีอยู่เสมอ หากลืมชาร์จวันใดวันหนึ่งขึ้นมาคงไม่สามารถนำมาใช้งานได้ และต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรีด้วย เพราะเมื่อใช้ไปนานๆ แบตเตอรีย่อมเสื่อมลง ไม่ต่างจากโทรศัพท์มือถือ ที่มีความเสื่อมลงตามอายุการใช้งาน ทำให้ต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรีและบางกรณีก็จำเป็นต้องนำส่งเข้าศูนย์ ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากส่วนนี้
ถึงแม้ว่าหูฟังแบบดั้งเดิมและแบบไร้สาย จะมีการใช้งานและการดูแลที่ไม่แตกต่างกันมากนัก หากเน้นการใช้งานอย่างสะดวกสบาย บอกได้คำเดียวเลยว่าหูฟังแบบไร้สายนั้นตอบโจทย์สำหรับทุกคนในสมัยนี้เป็นที่สุด ใส่ออกไปข้างนอก ขณะขับรถ หรือจะใส่ออกกำลังกาย ก็สุดแสนจะสะดวกสบาย เพราะไม่มีสายรกที่ทำให้รู้สึกหนักและรำคาญใจ
สำหรับหูฟังไร้สายได้มาตรฐานและปลอดภัย สะดวกสบายต่อการพกพาและมีการรับสัญญาณที่ดีสามารถหาซื้อได้จากร้านค้าชั้นนำมากมายของจีนจาก Taobao หรือ Tmall แต่ช่องทางที่ช่วยให้คุณช็อปปิ้งง่ายกว่า เพียงแค่คุณสมัครเป็นสมาชิกกับทาง Alibabaeasy ขั้นตอนง่ายๆ เพียงแค่คลิก วิธีการสั่งซื้อ ส่วนการนำเข้าสินค้าจากจีนมาไทยสามารถคำนวณค่าขนส่งได้ด้วยตัวเองอีกเช่นกัน