เถาเป่า เมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งก็เปลี่ยนตาม สำหรับธุรกิจ E-Commerce ในปีนี้ก็เช่นเดียว มีการแข่งขันอย่างดุเดือดเพื่อรองรับกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป พวกเขาต้องการความไว้วางใจและความเป็นส่วนตัวมากขึ้น
Alibabaeasy รวบรวมสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเปลี่ยนไปในธุรกิจ E-Commerce ปีนี้ ผู้ประกอบการออนไลน์ควรเตรียมรับมือกับบางสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม
- Social Shopping ทุกช่องทางคือการช็อปปิ้ง
ผู้บริโภคชื่นชอบที่จะซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์ต่างๆ เช่น Instagram และ Pinterest สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว แต่สิ่งที่แตกต่างกันในวันนี้คือ ช่องทาง Social เหล่านี้เปลี่ยนจากแพลตฟอร์มโฆษณากลายเป็นช่องทางสำหรับ Shopping แทน
ขณะเดียวกัน Facebook และ Instagram มีความสามารถในการจัดซื้อภายในตัว ดังนั้น ช่องทางอย่าง Pinterest , Snapchat , Tiktok จะเป็นอย่างไร AR (Augmented Reality เทคโนโลยีที่ผสมผสานโลกเสมือนเข้าไปอยู่ในโลกจริง จนแยกแทบไม่ออก) จะเป็นคำตอบในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม ภาพและวิดีโอที่เปลี่ยนแปลง ได้กลายเป็นเรื่องธรรมดามากยิ่งขึ้น โพสต์ของ Shoppable ของ Instagram เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น (Shoppable Media คือคอนเทนต์โฆษณาที่อยู่บนเครื่องมืออะไรก็ได้) เราจะได้เห็นช่องทาง Social ที่ทำให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายของการซื้อ
- การเพิ่มขึ้นและระบบอัตโนมัติของผลิตภัณฑ์วิดีโอ
ผู้บริโภค ‘คลิก’ ผ่านโฆษณาวิดีโอมากกว่าที่จะให้มันเล่นต่อเนื่องไปจนจบ โดยอัตราการคลิกผ่านนั้นสูงขึ้น 75% และอีก 72% ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ตัวเองสนใจผ่านวิดีโอ อย่างไรก็ตาม วิดีโอโฆษณาทั่วไป ยังเป็นช่องทางที่ผู้ผลิตสร้างการรับรู้ของแบรนด์ และยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ ความท้าทายคือแบรนด์สินค้าจะทำอย่างไรให้วีดิโอนั้นน่าสนใจ และผู้บริโภคดูมันจนจบ
- ผู้ค้าปลีกขยายจุดเข้าถึงบนพื้นที่การตลาดที่ไม่ใช่ผู้แข่งโดยตรง
ช่องทางที่สามารถเข้าถึงได้คือ Google, eBay , Facebook , Taobao (เถาเป่า) ช่องทางเหล่านี้ต่างเป็นพื้นที่การตลาดอันยอดเยี่ยม สำคัญกว่านั้นคือมันไม่ใช่การแข่งขันโดยตรงกับผู้ค้าปลีก ในลักษณะเช่นเดียวกันกับที่ Amazon ทำ ผู้ค้าปลีกได้ขยายพื้นที่การเข้าถึงสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งการทำการตลาดบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ ถือเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ค้าปลีก และจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมพวกเขาถึงเปิดรับพื้นที่ตลาดเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ
- เสียงสำคัญต่อการสื่อสารกับผู้บริโภค
ธุรกิจ E-Commerce ปีนี้ จะไม่ใช่การค้าด้วยเสียงเงียบอีกต่อไปแล้ว พฤติกรรมการบริโภคของนักช็อปปิ้งได้เปลี่ยนไปสู่ความต้องการฟังเสียงจากแพลตฟอร์ม Social Media มากขึ้น พวกเขาอ่านตัวอักษรหรือข้อความในโฆษณาน้อยลง แต่หากมี ‘เสียง’ ในแพลตฟอร์ม จะทำให้พวกเขาฟังมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถฟังเสียงและทำกิจกรรมอื่นไปด้วยได้ ที่สำคัญ การสื่อสารด้วยเสียง จะทำให้เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็น Niche Market ได้ชัดเจนขึ้น
- การค้าปลีกแบบเรียลไทม์
เทศกาล 11.11 ที่ผ่านมา Alibaba ได้ถ่ายทอดสดของการแสดงแฟชั่นถึง 8 ชั่วโมง สำหรับช่วงเวลา Singles Day ใช่แล้ว! ด้วยแฟชั่นโชว์นี้เอง จึงได้ถูกจับคู่กับรายการสินค้าใน Tmall และ Taobao (เถาเป่า) โดยที่ลูกค้านั้นสามารถซื้อเสื้อผ้าที่เห็นบนรันเวย์ของแฟชั่นโชว์ที่ถูกถ่ายทอดสดได้ทันที นี่ไม่ใช่แค่การตลาดสุดเจ๋งเท่านั้น แต่ยังสร้างสรรค์และเป็นการขายสินค้าแบบเรียลไทม์อย่างแท้จริง
การค้าปลีกที่นำเสนอในรูปแบบใหม่ สร้างความบันเทิงและน่าตื่นเต้นให้กับผู้บริโภค ทำให้พวกเขาเห็นผลิตภัณฑ์จริงแบบรูปธรรมผ่านแฟชั่นโชว์ ไอเดียนี้นำมาซึ่งความสนุกและพวกเขาต่างคาดหวังที่จะได้เห็นการค้าปลีกที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่
- ความพยายามร่วมกันเพื่อการส่งคืนสินค้า
แบรนด์และผู้ค้าปลีกรายใหญ่หลายราย กำลังปรับเปลี่ยนนโยบายการคืนสินค้ากันอย่างเงียบๆ ในปีนี้คาดว่าจะได้เห็นนโยบายการคืนสินค้าที่ออกกฎเข้มงวดมากขึ้น การจัดส่งผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใหม่จะเน้นข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้มีความชัดเจน รายละเอียดของรูปภาพและผลิตภัณฑ์ก็จะมีความเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าผลิตภัณฑ์นั้นมีความเหมาะสมกับพวกเขาจริงๆ หรือไม่
นอกจากนี้ การนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่านโฆษณาวิดีโอจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ ด้วยการนำเสนอข้อมูลเช่นนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจจึงหวังว่าพวกเขาจะได้รับการส่งคืนสินค้าลดลง
อ้างอิงข้อมูล https://productsup.io/blog/ecommerce-trends-2020/