ท่านอนที่ถนัดกับเคล็ดลับการเลือกหมอน

• คนชอบนอนคว่ำ หมอนนุ่มๆ และค่อนข้างแบนพอสมควร เหมาะที่สุดสำหรับคุณ หรือไม่คือไม่ใช้หมอนเลยก็ยังได้ แต่หมอนนุ่มจะทำให้คออยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลังมากขึ้น
• คนชอบนอนหงาย ให้มองหาหมอนที่หนาปานกลาง อย่าเลือกหมอนที่สูงหรือแข็งจนเกินไป แต่ก็ไม่ควรเลือกแบบที่นุ่มมากๆ จนหัวของคุณจมลงไปในที่นอน
• คนชอบนอนตะแคง ควรเลือกหมอนที่มีความสูงและแน่นกำลังดี เพื่อรองรับต้นคอ
• คนชอบนอนหลายท่า ควรเลือกหมอนที่หนาปานกลางและนุ่มเล็กน้อย จะช่วยเพิ่มความสบายมากขึ้น

วัสดุยัดไส้หมอน เลือกให้ดี มีผลต่อการนอนหลับ

มีโรคเรื้อรังบางชนิด ที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกหมอนให้ถูกสุขลักษณะ อาทิ ภูมิแพ้ โรคหืดหอบ อาการปวดคอเรื้อรัง เพราะคุณอาจจำเป็นต้องใช้ไส้ในหรือปอกหมอนกันไรฝุ่น

1. หมอนขนเป็ด ด้านในจะถูกยัดไส้ด้วยขนเป็ดหรือห่าน ข้อดีคือ หากยัดไส้แน่น จะเหมาะกับคนชอบนอนตะแคง แต่ถ้ายัดไส้น้อย จะนุ่มหน่อย จึงเหมาะกับคนนอนหงายหรือคว่ำ ข้อดี คือ หมอนขนเป็ดมักจะอยู่ได้นานเป็น 10 ปี ไม่ยุบตัวง่ายแม้ใช้งานไปนานๆ ข้อเสียคือ ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด ถึงแม้จะยังไม่มีหลักฐานวิทยาศาสตร์ว่าก่อให้โรคเหล่านี้กำเริบหรือไม่ก็ตาม
2. หมอนไส้ขนสัตว์ (Wool) หรือผ้าฝ้าย (Cotton) หมอนยัดไส้ประเภทนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้เพราะสามารถป้องกันไรฝุ่นกับเชื้อราได้ดีกว่าหมอนขนเป็ด แต่อาจจะมีเนื้อแน่นและแข็งไปหน่อยสำหรับคนที่ชอบนอนคว่ำ
3. หมอนยางพารา (Latex) หมอนยางพาราเป็นหมอนที่ครอบคลุมความต้องการได้อย่างกว้างขวาง จุดเด่นคือยืดหยุ่นคืนตัวดีแต่ไม่เท่ากับหมอน memory foam หรือหมอนโพลียูริเทน หมอนยางพารา เหมาะสำหรับคนเป็นโรคภูมิแพ้ได้ดีเยี่ยมเพราะป้องกันเชื้อราได้ และสามารถเก็บความเย็นได้ดี นอกจากนี้ ยังค่อนข้างคงรูปเดิมได้ดี มีน้ำหนักและราคาแพง
4. หมอน memory foam เป็นหมอนที่ทำจากโพลียูรีเทนผสมสารเคมีเพิ่ม เป็นหมอนที่ทนทานและใช้ได้นาน รองรับได้ดีสำหรับผู้มีปัญหาช่วงคอ ขากรรไกรและไหล่ แต่ข้อเสียคือระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าที่ควร