นวัตกรรมการออกแบบเครื่องซักผ้าในปัจจุบัน จึงถูกย่อส่วนให้มีขนาดเล็กกะทัดรัด รองรับกับชีวิตในหอพักหรือคอนโดได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพที่เทียบเคียงกับเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ ที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเดินท่อน้ำหรือเจาะฝาผนังให้วุ่นวาย

อย่างไรก็ตาม เครื่องซักผ้าแต่ละประเภท ไม่ว่าจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก ฝาหน้าหรือฝาบน ย่อมมีคุณสมบัติเฉพาะ และข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกัน โดยต่อไปนี้คือข้อมูลก่อนตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับคุณ

3 ประเภทของเครื่องซักผ้ายอดนิยม

1. เครื่องซักผ้าฝาบน

เป็นประเภทเครื่องซักผ้าที่เหมาะกับครอบครัว ประหยัดค่าใช้จ่าย ใช้งานง่ายและประหยัดเวลา ขณะเดียวกันเครื่องซักผ้าฝาบนมีความเหมาะสมทั้งทางด้านคุณภาพและราคา เครื่องซักผ้าประเภทนี้มีกระบวนการทำงานทุกอย่างโดยอัตโนมัติโดยที่คุณไม่ต้องอยู่กับตัวเครื่อง เพื่อควบคุมการทำงาน สามารถกำหนดปริมาณน้ำที่ต้องการได้ รวมทั้งเติมน้ำในปริมาณที่จำเป็นต่อการซักล้างโดยอัตโนมัติได้เช่นกัน

สิ่งที่จำเป็นสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน คือระบบประปาที่เหมาะสม ก๊อกน้ำที่มีน้ำไหลแรง และท่อระบายน้ำสำหรับระบายน้ำออก เครื่องซักผ้าประเภทนี้มาพร้อมกับโปรแกรมซักอย่างน้อย 12 คำสั่ง เช่น ซักด่วน, ซักเสื้อผ้าหนัก, ซักเสื้อผ้าที่ต้องความอ่อนโยนเป็นพิเศษ, ซักขนสัตว์ และโปรแกรมอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งโปรแกรมเหล่านี้ได้รับการปรับแต่งตามเวลาและประเภทของเนื้อผ้า

2. เครื่องซักผ้าฝาหน้าหรือเครื่องซักผ้าที่มีระบบอบผ้าในตัว

เครื่องซักผ้าฝาหน้าเป็นที่นิยมมากในอเมริกา มีทั้งเครื่องซักผ้าแบบเดียวและแบบรวม โดยโปรแกรมการทำงานเป็นไปโดยอัตโนมัติ นอกจากโปรแกรมซักล้างแล้ว ยังมีโปรแกรมอบแห้งที่เพิ่มเข้ามาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่หนาวเย็น มีความชื้นในอากาศสูง อย่างไรก็ตามเครื่องซักผ้าฝาหน้ามีต้นทุนสูงกว่าเครื่องซักฝ้าฝาบน แต่ข้อดีที่เหนือกว่า คือ ประหยัดน้ำและไฟมากกว่า อีกทั้งยังประหยัดพื้นที่โดยการวางซ้อนทับได้ ขณะเดียวกันมีเฉพาะบางรุ่นเท่านั้นที่สามารถระบายอากาศได้ สำหรับข้อเสียที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือไม่สามารถเพิ่มเสื้อผ้าเข้าไปภายหลังได้

3. เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ ไซส์พกพา

เครื่องซักผ้าประเภทนี้มีขนาดเล็กและสามารถแพ็คใส่กระเป๋าเดินทางได้ ทั้งนี้ อาจมีเพียงไม่กี่รุ่นที่มาพร้อมกับที่จับเพื่อให้ง่ายต่อการพกพา เหมาะสำหรับนักเดินทาง ผู้ที่อาศัยในหอพัก คอนโดมิเนียม หรือบ้านที่มีเด็กทารก ถึงแม้ว่าเครื่องซักผ้าขนาดเล็กจะมาพร้อมความสะดวกสบาย น้ำหนักเบา แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ไม่สามารถซักเสื้อผ้าได้ครั้งละมากๆ เหมาะสำหรับซักผ้าที่มีน้ำหนักเบา และผ้าที่ไม่ได้เปื้อนหนัก อาทิ ชุดชั้นใน ถุงเท้า เสื้อผ้าเด็กทารก  เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกชิปปิ้งหรือเลือกซื้อเครื่องซักผ้าครั้งแรก ควรตรวจสอบประเภทของเครื่องซักผ้าที่เหมาะสำหรับครอบครัว ความคุ้มค่า และลักษณะการใช้งานที่ตอบโจทย์มากที่สุด

การทำงานของเครื่องซักผ้า

เครื่องซักผ้ามีกระบวนการทำงานอยู่ด้วยกัน 3 ขั้นตอน

ขั้นตอนที่ 1 WASH

เครื่องซักผ้าทำงานโดยการปั่นเสื้อผ้า หมายถึง เสื้อผ้ามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง โดยน้ำยาซักผ้าจะทำให้คราบสกปรกที่ติดอยู่บนผ้าหลุดออก ทำให้อนุภาคของฝุ่นถูกแยกออกจากผ้า ระยะเวลาของการปั่นผ้าสามารถเลือกได้ตามต้องการ ส่วนใหญ่สามารถกำหนดได้โดยเครื่องซักผ้าอัตโนมัติ

ขั้นตอนที่ 2 RINSE

หลังซักด้วยน้ำยาซักผ้าจะมีสิ่งสกปรกปะปนอยู่ น้ำซักผ้านี้จะถูกระบายออกทางท่อระบายน้ำ หลังระบายน้ำเครื่องซักผ้าจะถูกเติมน้ำสะอาดเอาไป เพื่อทำการซักล้างน้ำยาซักหรือผงซักฟอกและสิ่งสกปรกที่เหลืออยู่ให้สะอาด

ขั้นตอนที่ 3 SPIN/DRY

หลังการซักเสื้อผ้าสุดท้ายเครื่องซักผ้าจะระบายน้ำที่เหลือออก จากนั้นเครื่องจะหมุนด้วยความเร็วสูงสุดเพื่อระบายน้ำออกจากเสื้อผ้าที่เปียก โดยทำงานด้วยแรงเหวี่ยงและความร้อน แน่นอนว่าการปั่นแห้งแบบนี้ไม่อาจทำให้ผ้าของคุณแห้งสนิท 100% แต่มันดีกว่าการบีบหรือบิดด้วยมือเพื่อเอาน้ำออกจากเสื้อผ้าเปียก

หรือจะลองเลือกซื้อเครื่องอบผ้าควบคู่เครื่องซักผ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ผ้าแห้งสนิทในช่วงหน้าฝน ก่อนเลือกซื้อหรือชิปปิ้งเครื่องอบผ้า ควรศึกษา ‘4 สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกซื้อเครื่องอบผ้า’