ชิปปิ้ง How To ตั้งชื่อร้านค้าออนไลน์อย่างไรให้ปังและเป็นที่จดจำ!

ชิปปิ้ง How To ตั้งชื่อร้านออนไลน์ให้ปัง ชิปปิ้ง ชิปปิ้ง How To ตั้งชื่อร้านค้าออนไลน์อย่างไรให้ปังและเป็นที่จดจำ! How To                                                                             Alibabeasy 768x402

ชิปปิ้ง เพราะการมีชื่อแบรนด์ที่แข็งแกร่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณได้เปรียบทางการตลาด ดังที่ Marty Neumeier นักเขียนและนักพูดชาวอเมริกัน ได้เขียนไว้ในหนังสือชื่อ ‘The Brand Gap’

ใจความเนื้อหากล่าวไว้ว่า “ชื่อแบรนด์ที่ ‘ใช่’ เปรียบเสมือนทรัพย์สินที่มีค่าสูงสุดของธุรกิจ ทำให้เกิดความแตกต่างและเป็นที่ยอมรับได้อย่างรวดเร็ว ส่วนชื่อแบรนด์ที่ ‘ไม่ใช่’ นั้น อาจนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายนับล้านตามมา”

สิ่งสำคัญคือการตั้งชื่อแบรนด์ที่ใช่สำหรับธุรกิจหรือร้านค้าเปิดใหม่ จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นๆ ซึ่งต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการค้นหาชื่ออันยอดเยี่ยมให้กับแบรนด์ โดยเฉพาะธุรกิจร้านค้าออนไลน์และชิปปิ้งจีนไม่ควรพลาดเคล็ดลับนี้

  1. ชื่อแบรนด์/ร้านค้า ควรเป็นคำ ‘สั้นๆ’ และจดจำง่าย

การตั้งชื่อแบรนด์สั้นๆ ทำให้เป็นที่จดจำ ง่ายต่อการออกเสียงและมักจะสะดุดตาเมื่ออยู่บนหน้าเว็บไซต์ แม้ว่าจะมีแบรนด์เปิดใหม่ทุกวัน และชื่อที่ดึงดูดคุณได้นั้น ก็มักจะดึงดูดผู้อื่นได้โดยไม่ต้องสงสัย ต่อไปนี้คือเกร็ดเล็กๆ ที่จะช่วยให้คุณเกิดไอเดีย

  • พยายามผสมคำ 2 คำ โดยทั้ง 2 คำนั้น ควรออกเสียงหรือมีพยัญชนะที่คล้องจองกัน ทำให้จดจำได้ง่ายขึ้น
  • ใช้วิธีแต่งคำหรือปรับคำจากชื่อที่คนคุ้นเคยอยู่แล้ว เช่น แบรนด์เทคโนโลยีอย่าง Google, eBay และ Skype ซึ่งจะทำให้คนจดจำได้ทันที แม้ว่าจะเป็นคำที่ไม่ได้มีความหมายใดๆ ก็ตาม
  • ใช้คำที่มีความหมายเฉพาะ เช่น อาจเป็นชื่อเล่น ชื่อสัตว์เลี้ยง (โดยเฉพาะหากคุณเปิดร้านขายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์) หรือแม้แต่การใช้ชื่อตัวเอง ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แม้ว่าชื่อร้านจะไม่เกี่ยวกับยอดขายเลยก็ตาม เช่น Alibaba แพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์และให้บริการชิปปิ้ง
  1. จงแตกต่าง

ควรค้นหาว่ามีชื่อใดบ้างที่ถูกคู่แข่งนำไปใช้แล้วบ้าง แล้วหาชื่อที่แตกต่างออกไป ความท้าทายในการตั้งชื่อแบรนด์คือการดึงดูดลูกค้าเฉพาะกลุ่มและประเภทของสินค้าหรือบริการที่คุณขาย นอกจากนี้ ชื่อแบรนด์ไม่ควรสะท้อนถึงคู่แข่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาความแตกต่างและจุดเด่นของชื่อที่ไม่ซ้ำใคร เช่น หากให้เป็นร้านค้าออนไลน์และให้บริการขนส่ง แบรนด์คู่แข่งอาจเล่นคำว่า ‘โลจิสติกส์’, ‘เอ็กซ์เพรส’, ‘ทรานสปอร์ต’ และ ‘ชิปปิ้ง’ เป็นต้น เพราะฉะนั้น ควรเลี่ยงใช้คำซ้ำและคิดให้ต่าง

  1. พิจารณาสถานะออนไลน์ของร้านค้า

ร้านค้าออนไลน์ควรมีช่องทางในการเข้าถึง เช่น มีเว็บไซต์หรือโดเมนเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ที่ได้รับความนิยมคือ การจดทะเบียนเป็น .com แต่การจดทะเบียน .com นั้นอาจยุ่งยากสักหน่อย เนื่องจากได้รับความนิยมเป็นเวลานาน ดังนั้น อาจมองหาการจดชื่อโดเมนเองหรือสร้างเว็บไซต์ของตัวเองไปเลย นอกจากนี้ ตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจคือฝากร้านบนพื้นที่ของบุคคลที่สาม เช่น ในเว็บไซต์ Taobao, 1688, Amazon, eBay, Etsy เป็นต้น

  1. สร้างสรรค์ชื่อโดเมนหรือเว็บไซต์ของตัวเอง

ในกรณี .com ไม่พร้อมใช้งานสำหรับชื่อร้านของคุณ อย่าเพิ่งหงุดหงิดใจเพราะคุณยังมีตัวเลือกในการใช้ TLD อื่นๆ อีกมากมาย (TLD : Top Level Domain คือส่วนท้ายของโดเมนเนม เช่น .com ซึ่งในกรณีที่ .com ใช้งานไม่ได้ สามารถใช้ .store .shop .shoes .art ฯลฯ ขึ้นอยู่ว่าคุณต้องการจดโดเมนเป็นอะไร) อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่ควรเลือกใช้ .com เป็นอันดับแรก เพราะมันคือมาตรฐานที่คนส่วนใหญ่มักจดจำได้ง่าย ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้เครื่องมือค้นหา มีความเชื่อว่า Google เป็นเครื่องมือที่ไม่ค่อยเป็นมิตรกับเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก ดังนั้นแบรนด์ควรพัฒนาให้เรตติ้งติดอันดับสูงๆ เข้าไว้ ยิ่งเว็บไซต์มีคุณภาพสูง และมีประสบการณ์ใช้งานที่ดี ยิ่งทำให้เว็บของคุณค้นหาได้ง่ายขึ้น

  1. จงเป็นต้นแบบ

เมื่อได้ชื่อร้านหรือชื่อแบรนด์มาแล้ว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อการค้าที่คุณเลือกใช้นั้น ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย โดยสามารถตรวจสอบกับสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายทางการค้า อย่างไรก็ตาม อย่าลืมใช้เครื่องมือค้นหาชื่อร้านอย่าง Google หรือ Bing เพื่อตรวจสอบว่าชื่อร้านของคุณปรากฏขึ้นมาหรือไม่ ซึ่งสามารถทำให้ชื่อโชว์อยู่ในตำแหน่งบนสุดของหน้าแรกได้ แต่หากคุณตั้งชื่อทั่วๆ ไป หรือชื่อที่ไม่มีเอกลักษณ์ อาจเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ชื่ออยู่ในอันดับต้นๆ ของการใช้ Search Engine

  1. ค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ

ถึงตรงนี้แล้ว หากยังไม่มีไอเดียในการตั้งชื่อร้าน อีกวิธีหนึ่งคือลองหาชื่อที่กำลังอินเทรนด์ในภาษาอื่นๆ รวมไปถึงการสนทนากับผู้คน การอ่านหนังสือ การเดินทาง ต่างๆ เหล่านี้อาจะช่วยให้คุณได้แรงบันดาลใจของการคิดชื่อเก๋ๆ ให้กับร้านค้าหรือแบรนด์ได้เช่นกัน

การค้นหาชื่อแบรนด์ที่ ‘ใช่’ อาจต้องใช้เวลา กว่าจะคิดออก แต่เชื่อเถอะว่า จะทำให้ลูกค้ารู้จักและพูดถึงแบรนด์ของคุณ แต่หากชื่อแบรนด์ยากเกินกว่าคนจะจำได้ ก็อาจทำให้ร้านพลาดโอกาสที่คนจะพูดกันแบบปากต่อปากได้ ธุรกิจออนไลน์ในช่วงปี 2020 เอง นอกจากต้องพัฒนาคุณภาพของธุรกิจ ไม่ควรละเลยอัพเดทข้อมูลล่าสุดของธุรกิจเช่นกัน สามารถอ่าน ‘บางสิ่งที่เปลี่ยนไปในธุรกิจออนไลน์ 2020’ ได้ที่นี่ เพื่อทันต่อการเปิดเกมส์การตลาดและการแข่งขันธุรกิจชิปปิ้งในปี 2020