ในความเป็นจริง E-Commerce เป็นธุรกิจที่โหดร้ายและเกิดความล้มเหลวได้ง่าย โดยร้อยละ 10-30 ของร้านค้าออนไลน์พบว่า มีร้านค้าที่ดำเนินการอยู่รอดมาได้นานกว่า 2-3 ปี เช่น อาลีบาบา

ถึงแม้จะมีอัตราความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวสูง ธุรกิจ E-Commerce ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้คนส่วนใหญ่หันมาช็อปปิ้งออนไลน์ ซึ่งคาดว่ายอดขายทั่วโลกจะสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2020

อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดที่เกิดกับธุรกิจ E-Commerce นั้น ส่วนใหญ่ต่างเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ โดยต่อไปนี้คือตัวอย่างความล้มเหลวที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเคล็ดลับการหลีกเลี่ยงเมื่อพบกับปัญหาที่นำไปสู่ความล้มเหลว Alibabaeasy ได้รวบรวมข้อมูล ดังนี้

1. ช่องทางเข้าถึงเว็บไซต์ยุ่งยากเกินไป

ทุกๆ วัน เราจะเห็นร้านค้าออนไลน์เกิดใหม่มากมาย แต่ช่องทางการเข้าถึงอย่างเว็บไซต์ของร้านค้ากลับยุ่งยากและชวนปวดหัวตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้งาน เมื่อลูกค้าพบว่าการเข้าถึงมีความซับซ้อนและรายละเอียดของสินค้าไม่ชัดเจน ย่อมส่งผลลบต่อการตัดสินใจซื้อ หรืออาจทำให้ลูกค้าคลิกออกจากเว็บไซต์ไปในทันที

ประสบการณ์ออนไลน์ที่ไม่น่าประทับใจนั้น อาทิ เว็บไซต์ไม่น่าดึงดูด การเข้าถึงร้านค้ายุ่งยาก ภาพถ่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพต่ำ ไม่มีรายละเอียดผลิตภัณฑ์ และการใช้งานที่ยากต่อการเข้าใจ

เว็บไซต์ E-Commerce ควรมีความเรียบง่ายต่อการใช้งาน และเหมาะกับอุปกรณ์พกพา เช่น สมาร์ทโฟน นอกจากนี้ควรลบองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นบนเว็บไซต์ออก และควรลงทุนเรื่องของภาพถ่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง มีรายละเอียดเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน จะช่วยดึงดูดความสนใจจากนักช็อปได้ดีขึ้น เช่น เว็บไซต์ในเครืออาลีบาบา (Alibaba)

2. การจัดการสินค้าคงคลังไม่สมดุล

ถือเป็นปัญหาหนักสำหรับร้านค้าออนไลน์ หากมีสินค้าคงคลังมากเกินไปอาจกระทบกับเงินทุนที่ต้องนำไปใช้ด้านอื่น ขณะเดียวกันหากสินค้าคงคลังมีน้อยอาจทำให้พลาดโอกาสการขายไปได้

ลงทุนกับการใช้ซอฟต์แวร์เพื่อจัดการสินค้าคงคลัง ปัจจุบันเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามคำสั่งซื้อ ควบคุมคลังสินค้าและจัดการเติมเต็มคลังสินค้าได้อย่างง่ายดาย

3. ลูกค้าไม่แน่ใจว่าร้านค้ามีตัวตนจริงหรือไม่

แม้ว่าร้านค้าออนไลน์จะเป็นที่รู้จัก แต่อย่าลืมว่ากลยุทธ์ของ SEO มีพลังมหาศาลที่จะช่วยเพิ่มยอดขายของร้าน ดังนั้น จึงต้องหาวิธีการเพื่อให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น และวิธีผสมผสานทางการตลาดที่เหมาะสม เพื่อผลักดันยอดขายของร้านค้า การตลาดที่ไม่ดีอาจเป็นสาเหตุหลักของความล้มเหลวในการเริ่มต้นธุรกิจ E-Commerce

แม้มีงบประมาณน้อย แต่ก็มีหลายวิธีที่ผู้ประกอบการทำได้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าพอใจ Neil Patel ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด แนะนำวิธีต่อไปนี้

• สร้างวิดีโอออนไลน์
• ศึกษา SEO
• สร้างชุมชน Social
• ทำงานกับผู้มีอิทธิพล
• มุ่งเน้นเนื้อหาการตลาด

4. ลูกค้าได้รับการให้บริการที่ไม่น่าประทับใจ

ร้านค้าของผู้ประกอบการมีฝ่ายบริการลูกค้าหรือไม่? ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และจัดการคำสั่งซื้อของลูกค้าอย่างไร? ตะกร้าสินค้าออนไลน์ของร้านค้าใช้งานง่ายหรือไม่? หากคำตอบคือไม่ สิ่งนี้นับเป็นข้อบกพร่องของร้านค้าที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาและจัดการกับคำถามเหล่านี้

• ลงทุนติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อให้บริการออนไลน์ที่ครอบคลุม และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
• ประเมินตะกร้าสินค้าออนไลน์ เช่น ตรวจสอบกระบวนการเช็คเอาท์และดูว่าสามารถปรับปรุงได้หรือไม่ ? นอกจากนี้ ร้านค้าควรเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้าเพื่อช่วยให้การตัดสินใจซื้อของลูกค้าเป็นไปในทางบวก รวมทั้งควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับรายการซื้อ

5. ร้านค้าออนไลน์ไม่น่าไว้ใจ

การขาดความเชื่อมั่น ย่อมส่งผลกระทบต่อยอดขายของร้านค้า โดยเฉพาะร้านค้าไม่มีเครื่องหมายที่แสดงถึงความน่าเชื่อถือหรือสร้างความมั่นใจในการช็อปปิ้งได้ เช่น  ใบรับรอง SSL (Security Socket Layer)

• แสดงเครื่องหมายที่น่าเชื่อถือสำหรับเว็บไซต์ เช่น มีใบรับรอง SSL (ความปลอดภัยของเว็บไซต์) ซึ่งเป็นใบรับรองดิจิทัลที่จะตรวจสอบยืนยันอัตลักษณ์ของเว็บไซต์และจะเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งไปยังเซิรฟ์เวอร์โดยใช้เทคโนโลยี SSL
• ตอบกลับลูกค้าทันที หรือเปิดให้ลูกค้าสามารถรีวิวได้ สิ่งนี้ถือเป็นผลลัพธ์ที่ทรงอิทธิพลต่อลูกค้าใหม่ และเป็นวิธีง่ายๆ ในการสร้างความเชื่อถือบนเว็บไซต์

การสร้างธุรกิจ E-Commerce ให้ประสบความสำเร็จอาจเป็นเรื่องยาก ทว่า การทำความเข้าใจกับปัญหาและหาวิธีรับมืออย่างมืออาชีพ อาจทำให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มเกินคาด อย่างธุรกิจ E-Commerce ของค่ายยักษ์ใหญ่ Alibaba (อาลีบาบา) เช่น Taobao, Tmall และ 1688 ที่ได้รับการตอบรับที่ดีทั้งในประเทศและต่างประเทศ การสั่งซื้อสินค้าจากจีนดีอย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ‘สั่งซื้อสินค้าออนไลน์จากเว็บไซต์จีน ดีกว่าอย่างไร’