Alibaba กับ 3 ค่าย E-Commerce ยักษ์ใหญ่ กำไรงามช่วงวิกฤตโคโรนา

alibaba 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ WEB alibaba Alibaba กับ 3 ค่าย E-Commerce ยักษ์ใหญ่ กำไรงามช่วงวิกฤตโคโรนา 3                                         WEB 768x402

Alibaba ยอมรับว่าในช่วงการระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลต่อการปิดตัวของเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ก่อให้เกิดการถดถอยของความไม่แน่นอนและเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว และอาจทำให้เห็นถึงการปรับตัวที่ดีในช่วงเวลานี้ด้วย

แม้ว่าหุ้นของบริษัทหลายแห่งจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็ยังมีหุ้นที่น่าสนใจอย่างธุรกิจ E-Commerce ที่มีแนวโน้มเติบโตและมีสัดส่วนประมาณ 10%-15% ของยอดค้าปลีกทั้งหมด ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโรค ทำให้ผู้คนหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นในระหว่างที่ถูกกักตัวอยู่บ้าน

Alibabaeasy มีข้อมูลที่น่าสนใจ โดยหุ้นของ 3 บริษัทที่พุ่งแรงในเดือนเมษายนนี้ คือ Amazon MercadoLibre และ JD.com ข้อมูลต่อไปนี้ จะเป็นการเฉลยว่า เหตุใดทั้ง 3 บริษัท จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าสนใจของตลาด E-Commerce ในวันนี้

Amazon

Amazon คือบริษัท E-Commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมี Market Cap สูงสุดในโลกเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท Microsoft (ข้อมูล : Statista มิถุนายน 2019) ปัจจุบัน Amazon.com (NASDAQ: AMZN) มีรายได้จากการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดของ Coronavirus ขณะเดียวกัน มีการเพิ่มขึ้นของการรับส่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตบน Twitch ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม e-Sports Streaming และ Video chat ของ Amazon

ปัจจุบัน  Amazon ยังมีแพลตฟอร์มบนคลาวด์ที่มีชื่อว่า Amazon Web Service (AWS) โดยธุรกิจ Cloud Computing นี้สร้างรายรับให้กับ Amazon ถึง 35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปีที่แล้วเพิ่มขึ้น 36.5% และมีอัตรากำไรจากการดำเนินงาน 26.3% AWS ยังอยู่บนเส้นทางที่ดีก่อนเกิดการระบาด ขณะเดียวกันวิกฤตที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระตุ้นต่อธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็ก เพื่อเร่งให้เกิดการปรับใช้ระบบ Cloud Computing มากยิ่งขึ้น ข้อดีของระบบนี้คือช่วยให้พนักงานสามารถมีการกระจายและความจุที่ยืดหยุ่น นั่นยิ่งทำให้ Amazon ได้รับผลประโยชน์มากยิ่งขึ้น

MercadoLibre

MercadoLibre เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้าน E-Commerce ของละตินอเมริกา (NASDAQ: MELI) ซึ่งเป็นถิ่นที่ Amazon ไม่สามารถเจาะตลาดเข้าถึงได้ โดยธุรกิจหลักของ MercadoLibre คือแพลตฟอร์ม E-Commerce ส่วนธุรกิจรองที่น่าตื่นเต้นและน่าสนใจคือ MercadoPago ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดย Pago ช่วยเพิ่มปริมาณการชำระเงิน (TPV : Total Payment Volume) ถึง 99% และช่วยให้ผู้ใช้บริการออนไลน์สามารถทำการซื้อบนแพลตฟอร์มได้สะดวกยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การระบาดของโรค COVID-19 เมื่อเร็วๆ นี้ ส่งผลให้ธุรกิจ E-Commerce เม็กซิกันอย่าง  MercadoLibre มีรายได้ที่ลดลง จนหลายคนสงสัยว่าเป็นเพราะเหตุใด คำตอบก็คือเมื่อเกิดสถานการณ์ใดๆ ย่อมเกิดการแข่งขันตามมา และมักจะมีตลาดใหม่เกิดขึ้นมากมาย ทั้งนี้ เป็นที่คาดการณ์ว่า การชำระเงินแบบออฟไลน์ของ Pago จะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเติบโตของ MercadoPago ในที่สุด และอาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเป็นผู้ชนะ E-Commerce ในระยะยาว

JD.com

JD.com แห่งค่าย Jingdong ของจีน ขึ้นชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ทำรายได้สูงสุดในเดือนเมษายนปี 2020 โดยหุ้นของ JD เพิ่มขึ้น 13.2% สำหรับ JD ถือเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ Alibaba แต่ต่างกันตรงที่ JD เป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce ที่ลงทุนกับเรื่องระบบขนส่งโลจิสติกส์ของตัวเอง ทำให้สามารถบริหารและจัดการเรื่องการขนส่งได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังถือเป็นส่วนที่ทำกำไรสูงสุดของ JD อีกด้วย

ผู้บริโภคชาวจีนจึงหันไปใช้บริการกับ JD เนื่องจากมีระบบจัดส่งที่รวดเร็วและน่าเชื่อถือ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่แม้ว่าเศรษฐกิจจีนส่วนใหญ่จะปิดตัวลงตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม แต่ JD ยังคงมีการเติบโตและเป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาสนี้